วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

ปราสาทโอซาก้า


                                       ปราสาทโอซากา 

ปราสาทโอซะกะ (ญี่ปุ่น大坂城 หรือ 大阪城 Ōsaka-jō ?) เป็นจุดเด่นของเมืองโอซะกะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นปราสาทที่มีชื่อเสียง ทั้งยังเป็นจุดชมวิวที่เป็นที่นิยม และเป็นสัญลักษณ์ของโอซะกะ ปราสาทนี้ประกอบขึ้นด้วยโครงสร้าง 13 อย่างที่รัฐบาลญี่ปุ่นระบุให้เป็นทรัพย์สมบัติสำคัญในทางวัฒนธรรม สิ่งที่มีชื่อเสียงมากเป็นพิเศษคือ ประตูขนาดใหญ่และและป้อมปราการที่อยู่ตามคูกำแพงเมืองรอบนอก กำแพงสูงชันที่สูงเกือบถึง 30 เมตร นั้นทำมาจากก้อนหินขนาดใหญ่ซึ่งส่งเข้ามาในโอซะกะจากเหมืองที่อยู่ห่างออกไปมากกว่า 100 กิโลเมตร ความสูงของกำแพงและความกว้างของคูกำแพงเมืองที่เห็นนั้นไม่สามารถเทียบได้กับปราสาทอื่นๆในญี่ปุ่นได้เลย
สิ่งที่น่าสนใจยังรวมถึง หลังคารูปปลาโลมาแปดตัวของหอ และหลังคาอยู่ประดับไปด้วยกระเบื้องและแกะสลักเป็นรูปทรงของเสือ ซึ่งทั้งหมดจะถูกชุบด้วยทองคำ
หอสูงของปราสาทได้รับการซ่อมแซมใหม่ในปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) การซ่อมแซมในครั้งนี้ได้นำโครงสร้างอันงดงามของกำแพงความบริสุทธิ์และความสุกใสของทองคำกลับมาให้เราเห็นอีกครั้ง ความงดงามของปราสาทจึงได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซะกะ

ประโยชน์ของมะกรูด

                        ประโยชน์ของมะกรูด

สรรพคุณ / ประโยชน์ของมะกรูด


ขับลมแก้จุกเสียด วิธีใช้


1. ตัดจุกผลมะกรูดคว้านไส้กลางออกเอามหาหิงส์ใส่แล้วปิดจุก นำไปเผาไฟจนดำเกรียมบดเป็นผงละลายกับน้ำผึ้งรับประทาน จะช่วยขับลม แก้ปวดท้องหรือป้ายลิ้นเด็กอ่อน เป็นยาขับขี้เทาได้
2. น้ำมะกรูดใช้ถูกฟัน แก้เลือดออกตามไรฟัน
3. เอาผลมะกรูดมาดอง เป็นยาดองเปรี้ยวรับประทานขับลมขับระดู
4. เปลือกผลฝานบาง ๆ ชงน้ำเดือดใส่การะบูรเล็กน้อย รับประทานแก้ลมวิงเวียน
5. เปลือกฝนใช้ผสมในเครื่องสำอางบางชนิด เช่น แชมพู สบู (เชษฐา, 2525)


ขนาดการใช้และผลที่ได้รับจากการรักษาโรค


- แก้ลม บำรุงหัวใจ ใช้ผิวสดหั่นเป็นชิ้น ผสมการะบูรหนึ่งหยิบมือ ชงน้ำเดือด คนให้ละลาย ปิดฝาทิ้งไว้ 3 – 5 นาที ดื่มเอาแต่น้ำ ช่วยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดี
- ยาขับเสมหะ แก้ไอ ใช้ผลมะกรูดผ่าซีกเติมเกลือลนไฟให้เปลือกนิ่มบีบน้ำมะกรูดลงในคอทีละน้อย ๆ
- เป็นยาสระผมหรืออาบ นำมะกรูดผ่าซีกลงในหม้อต้มอาบได้น้ำมันหอมระเหยอยู่บนผิวทำให้ผิวไม่แห้ง และรสเปรี้ยวของมะกรูดช่วยให้อาบสะอาดนอกจากนี้ใช้มะกรูดผ่าซีกเอาน้ำมาสระผม

นอกจากมะกรูดจะยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ได้ดีแล้วยังมีรายงานว่าน้ำมันจากใบมะกรูดจะกระตุ้นการเจริญของเชื้อราบางชนิดได้อีกด้วย เช่น กระตุ้นการสร้างเส้นใยของราพวกมูเคอร์ อัลเทอร์นาเรีย แอสเปอร์จิลลัส และกระตุ้นการสร้างสปอร์ของแอสเปอร์จิลลัส (บัญญัติ, 2527)


สารเคมีที่สำคัญ


สารเคมีที่สำคัญที่พบในมะกรูดนี้จะอยู่ในส่วนของน้ำมันหอมระเหยซึ่งมีทั้งในส่วนใบและเปลือกของผลที่เรียกว่า ผิวมะกรูด โดยที่ผิวมะกรูดจะมีน้ำมันหอมระเหย 4 เปอร์เซ็นต์ และใบจะมีน้ำมันหอมระเหย 0.08 เปอร์เซ็นต์

มะกรูดเป็นพืชเครื่องเทศและพืชสมุนไพรมนุษย์ได้รู้จักนำเอาประโยชน์ที่ได้รับจากมะกรูดเป็นยารักษาโรคหรือส่วนผสมของยา ช่วยแก้อาการท้องอืด ช่วยให้เจริญอาหาร ใช้ดองยาเพื่อใช้ฟอกเลือดและบำรุงโลหิตสตรี เนื้อของผลใช้เป็นยาแก้อาการปวดศีรษะและระงับการไอ ส่วนใบใช้ในการดับกลิ่นคาวในอาหารใช้เป็นยาขับลมในลำไส้ แก้จุกเสียด และผลมะกรูดที่คว้านไส้ออกนำมหาหิงค์ใส่แทนใช้เป็นยาแก้ปวดท้องในเด็กอ่อน ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องหอมและเครื่องสำอางและน้ำของมะกรูดมีกรด Citric ช่วยขจัดคราบสบู่ (ด่าง) ที่หลงเหลืออยู่ น้ำมันจากผิวมะกรูดช่วยให้ผมดกเป็นเงางาม นอกจากนี้ผิวมะกรูดจะมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ต่าง ๆ ได้ เพื่อกำจัดรังแคที่มาจากเชื้อรา

ที่มา : http://www.n3k.in.th/สมุนไพร/ประโยชน์ของมะกรูด

ปลาช่อนอเมซอน


ปลาช่อนอเมซอน 

ปลาช่อนอเมซอน


ปลาอะราไพม่าหรือปลาช่อนอะเมซอน (สถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง)
เรียบเรียงโดย สุจิตรา จันทร์เมือง

          ปลาอะราไพม่าหรือ พิรารูดู Pirarucu (ชื่อพื้นเมืองของชาวบราซิล) และ PAICHE (ชื่อพื้นเมืองของชาวเปรู) ส่วนคนไทยรู้จักกันในนาม "ปลาช่อนอเมซอน" จัดเป็นปลาที่อยู่ในตระกูลเดียวกับ ปลามังกร หรือ ปลาอะโรวาน่า คือ Family Osteoglossidae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Arapaima gigas 
          ปลาช่อนอเมซอน จัดเป็นยักษ์ใหญ่ของสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำของโลกและสำหรับนักเลี้ยงปลาทุกคน มันถูกจัดเป็นปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง เจริญเติบโตได้เร็วมาก มีความยาวได้ถึง 4 เมตร มีน้ำหนักถึง 400 กิโลกรัม ปลาช่อนอเมซอน เป็นปลาเนื้อดีกินอร่อยของชาวบ้านในประเทศ บราซิล เปรู และโคลัมเบีย 

          ทั้งนี้ ปลาช่อนอเมซอน เป็นปลาที่มีแรงเยอะ ว่ายน้ำและกระโดดเก่งมาก รอบตัวของมันปกคลุมด้วยเกล็ดสีเขียวเหลือบขนาดใหญ่ ท้องเป็นสีขาว โคนหางมีเกล็ดสีแดงกระจัดกระจายอยู่ทั่ว คนไทยส่วนใหญ่นิยมเรียกกันว่า "กุหลาบแดง"
          ในอเมริกาใต้ ปลาช่อนอเมซอน เป็นปลาที่นำมากินเป็นอาหาร ส่วนบ้านเราสั่งเข้ามาเลี้ยงเป็น ปลาประหลาดราคาแพง ต้องทำตู้ทำบ่อเลี้ยงกันราคานับแสนบาท ปลาช่อนอเมซอน ถูกจัดเป็นปลาที่อยู่ในกฏเกณฑ์ของการอนุรักษ์สัตว์ของโลกโดย IUCN (International Union for Conservation of Nature and Natural Resources) ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในประเทศอังกฤษ และได้มีการประชุมทางอนุรักษ์สัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ ของโลกไม่ให้สูญพันธุ์ ถึงกับมีข้อตกลงห้ามสั่งเข้าหรือส่งออกปลาดังกล่าวได้โดยเสรี 

          ส่วนประเทศที่สั่ง ปลาช่อนอเมซอน ที่ระบุชื่่อไว้ก่อนกฏ หรือข้อตกลงใช้บังคับให้ตรวจนับจำนวนแน่นอน หรือส่งปลานั้นคืนประเทศต้นสังกัด เพื่อให้ประเทศที่เป็นถิ่นกำเนิดของสัตว์ชนิดนั้น พยายามเพาะพันธุ์และอนุรักษ์ไว้ให้ได้ ส่วนในประเทศไทยยังไม่ได้ประกาศใช้กฏนี้เป็นทางการ ดังนั้น ปัจจุบันจึงยังมีการสั่งปลาชนิดนี้เข้ามาขายกันอย่างเสรี จากสถิติมีผู้บันทึกไว้ว่า ในปี พ.ศ.2528 ที่ผ่านมา มีการขออนุญาตนำ ปลาช่อนอเมซอน เข้าไทยประมาณ 300 กว่าตัว

 ลักษณะทั่วไปของ ปลาช่อนอเมซอน

          ด้วยสาเหตุที่ ปลาช่อนอเมซอน มีร่างกายขนาดใหญ่โต มันจึงเป็นปลาที่ดูสง่างามอย่างเห็นได้ชัดที่สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ปลาช่อนอเมซอน จะใช้เวลาทั้งหมดไปกับการว่ายน้ำเล่นไปมารอบ ๆ ตู้ปลา โดยจะมีการว่ายน้ำคดเคี้ยวไปมาเหมือนงู ปลาช่อนอเมซอน จัดเป็นปลาที่น่าสนใจ ตามประวัติมีการขุดพบฟอสซิล (Fossil) ของปลาชนิดนี้ ทำให้สามารถคำนวณอายุของปลาชนิดนี้ได้ว่าได้กำเนิดมาในโลกนี้ เมื่อประมาณกว่า 100 ล้านปีมาแล้ว และยังคงรูปร่างทรงเดิม 
           ปลาช่อนอเมซอน จึงจัดว่าเป็นปลาโบราณ มีเกล็ดใหญ่ ปากกว้าง มีฟันซึ่งแม้จะไม่ค่อยเจริญได้ดีแต่ก็สามารถไล่งับหรือฮุบปลากินเป็นอาหารได้ ลักษณะพิเศษของ ปลาช่อนอเมซอน คือ มีอวัยวะเป็นถุงลมอยู่ภายในช่องท้องคล้ายปอด เพราะมีเส้นเลือดฝอยกระจายกันอยู่ทั่วและสามารถเปลี่ยนออกซิเจนได้เช่นเดียวกับปอดมนุษย์เราด้วย 

          สำหรับลักษณะที่เป็นความสวยเฉพาะตัวของ ปลาช่อนอเมซอน คือ รูปร่างที่มีขนาดใหญ่ มีสีดำเงาเป็นมัน ครีบบน ครีบล่างมีตำแหน่งค่อนไปทางหาง มีแถบสีแดง-ส้มตัดกับพื้นสีดำ หัวแข็งคล้ายกระดูก มีการว่ายน้ำที่ช้าทำให้ดูสง่างาม ปกติชอบว่ายอยู่ใกล้ผิวน้ำและจะต้องขึ้นมาฮุบอากาศทุก ๆ 5-20 นาทีขึ้นอยู่กับขนาดของมันด้วย ถ้าเป็นปลาขนาดเล็กก็จะขึ้นมาฮุบอากาศทุก ๆ 5 นาที แต่ถ้าเป็นขนาดใหญ่ก็จะขึ้นมาฮุบอากาศทุก 18-20 นาที ปลาช่อนอเมซอน เป็นปลาที่ชอบอาศัยในแหล่งน้ำตื้น ถึงแม้จะมีขนาดที่ใหญ่โต และว่ายน้ำช้า ๆ แต่มีความว่องไวมากในยามกินเหยื่อ เคยมีผู้พบเห็น ปลาช่อนอเมซอน ขนาด 2 เมตร ฮุบกินปลาเทพาขนาดคืบกว่าที่มาแย่งโฉบกินเหยื่อ พร้อมกันทีละ 2 ตัวในชั่วพริบตาเดียว

ที่มา http://pet.kapook.com/view5041.html

กรุงโรม

                                 กรุงโรม

โรม (อิตาลีRomaอังกฤษRome) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซีโอและประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ ในเขตตัวเมืองมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 2.5 ล้านคน ถ้ารวมเมืองโดยรอบจะมีประมาณ 4.3 ล้านคน โดยมีจำนวนประชากรใกล้เคียงกับมิลานและเนเปิลส์

นอกจากนี้ โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกอีกด้วย

หลังสิ้นสุดยุคกลาง โรมได้อยู่ภายใต้การปกครองของพระสันตะปาปา เช่น สมเด็จพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6และสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10 ผู้ซึ่งสร้างสรรค์ให้โรมกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีเช่นเดียวกับฟลอเรนซ์[2] ซึ่งในยุคสมัยดังกล่าว ได้มีการก่อสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แบบที่เห็นในปัจจุบัน และไมเคิลแองเจโลได้วาดภาพปูนเปียกประดับภายในวัดน้อยซิสตีนศิลปินและสถาปนิกที่มีชื่อเสียงอย่างบรามันเต แบร์นินี และราฟาเอล ซึ่งพำนักอยู่ในโรมเป็นครั้งคราว ได้มีส่วนช่วยสรางสรรค์สถาปัตยกรรมแบบสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาและแบบบารอกในโรมด้วยเช่นกัน

ใน พ.ศ. 2550 โรมเป็นเมืองที่มีผู้มาเยือนมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก มากเป็นอันดับสามในสหภาพยุโรป และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในอิตาลี[3] ศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ใจกลางเมืองได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก[4] นอกจากนี้ อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์อย่างพิพิธภัณฑ์วาติกันและโคลอสเซียมยังจัดอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมมากที่สุด 50 อันดับแรกของโลก (พิพิธภัณฑ์วาติกันมีนักท่องเที่ยว 4.2 ล้านคนต่อปี และโคลอสเซียมมี 4 ล้านคนต่อปี)[5]


ที่มา : http://th.m.wikipedia.org/wiki/โรม

โนเกียลูเมีย 1020


โนเกียลูเมีย 1020



   โนเกียกลับมาสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ที่กำลังรอคอยสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูง ล่าสุด โนเกียประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูล Lumia รุ่นใหม่ ชื่อรุ่น Nokia Lumia 1020 (โค้ดเนม EOS) สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพความละเอียด 41 ล้านพิกเซล พร้อมอุปกรณ์เสริมกริปกล้องที่ช่วยให้การถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนเครื่องนี้สะดวกยิ่งขึ้น ด้านสเปคมีอะไรน่าสนใจบ้าง มาติดตามกันเลย 

          ล่าสุด โนเกียประเทศไทยออกมาประกาศราคา Nokia Lumia 1020 แล้ว โดยจะวางจำหน่ายในราคา 24,990 บาท ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเหลือง, สีขาว และสีดำ เปิดให้จองแล้ววันนี้ถึงวันที่ 25 กันยายน 2556 ที่โนเกียช้อปเท่านั้น เพียงวางมัดจำ 1,000 บาทต่อเครื่องแล้วนำใบจองมารับเครื่องได้ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน – 31 ตุลาคม 2556 ณ สาขาที่จองไว้ พิเศษเฉพาะผู้จอง 400 ท่านแรกรับฟรี ! Grip พร้อมแบตเตอรี่สำรองรุ่น PD-95G มูลค่า 2,450 บาท

          สำหรับ Nokia Lumia 1020 มาพร้อมหน้าจอขนาด 4.5 นิ้วแบบ AMOLED ความละเอียด 1280x768 พิกเซล จอกระจก Gorilla Glass 3 พร้อมเทคโนโลยี PureMotion HD+ ClearBlack ใช้ซีพียู Snapdragon แบบ Dual-core ความเร็ว 1.5GHz แบบเดียวกับ Lumia 920/925, แรม 2GB มีหน่วยความจำภายใน 32GB กล้องด้านหน้า 1.2 ล้านพิกเซล มีรูรับแสง f/2.4 รองรับการถ่ายวิดีโอที่ 720p และรองรับ Bluetooth 3.0, NFC, Wi-Fi a/b/g/n

วิธีรักษาเส้นผม

                        วิธีดูเเลรักษาเส้นผม


อันดับแรก เป็นวิธีสะดวกรวดเร็ว ด้วยการเดินเข้าร้านทำผม ให้ช่างผมเล็มปลายผมออกสัก 2-3 เซนติเมตร จากนั้นกลับมาดูแลเส้นผมด้วยตัวเอง
โดยการหมักบำรุง วิธีทำ นำเบบี้ ออยล์ มาตั้งไฟอุ่นให้ร้อนพอประมาณ จากนั้นนำมาชโลมผมที่แห้งพอหมาด ๆ แล้วคลุมทับด้วยหมวกอาบน้ำ หรือผ้าขนหนูเปียกหมาด ๆ ทิ้งไว้ 30 นาที จึงสระออกด้วยแชมพูตามปกติ ทำเช่นนี้อาทิตย์ละครั้ง พบว่าเส้นผมที่ยาวขึ้นมาใหม่ ไม่แตกปลายอีกต่อไป สุขภาพเส้นผมก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจนะครับ 
สปาเส้นผมด้วยมะนาว สวยได้ด้วยมือเรา
ใครที่อยากมีผมสวย วันนี้มีเคล็ดลับการทำสปาให้กับเส้นผมด้วยมะนาวมาฝากกันครับ!!
มะนาว มีประโยชน์ต่อเส้นผม คือ จะช่วยดูแลสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะให้นุ่ม สวย แถมไม่ก่อให้เกิดรังแคอีกด้วย เพราะ มะนาวมีกรดเป็นธรรมชาติ ช่วยชำระล้างเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน ซึ่งน้ำมันจากมะนาวยังมีคุณสมบัติต่อต้านแบคทีเรียสามารถทำความสะอาดและคืน สมดุลให้กับหนังศีรษะและเส้นผมช่วยลดความมันได้อีกด้วย

ขั้นตอนการบำรุง เพียงนำน้ำมะนาว 8 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำบริสุทธิ์ครึ่งถ้วย แล้วคนน้ำมะนาวกับน้ำเข้าด้วยกัน นำมานวดลงบนหนังศีรษะและเส้นผมด้วยปลายนิ้วอย่างเบา ๆ เพื่อช่วยผ่อนคลายและช่วยระบบหมุนเวียนของโลหิตและระบบประสาท และหมักทิ้งไว้สัก 2 -3 ชั่วโมงจึงล้างออก จะช่วยล้างรังแคเหนียว ๆ ที่ติดอยู่บนหนังศีรษะและช่วยทำให้เส้นผมนุ่มสลวยเป็นเงางาม  

   ที่มา  : http://tonghealthy.blogspot.com/2011/10/blog-post_3523.html?m=1

สุนัขธุ์ไทยบางแก้ว


สนัขพันธ์ุ์ไทยบางแก้ว 

ประวัติความเป็นมาของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว จากข้อมูลที่ได้สอบถามจากประชาชนตลอดจนผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านบางแก้ว ตำบลท่านางงาม และบ้านชุมแสงสงคราม ตำบลชุมแสงสงคราม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พอจะสรุปได้ว่า แหล่งกำเนิดของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วนั้นอยู่ที่วัดบางแก้ว ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม สภาพภูมิประเทศทั่ว ๆ ไปนั้นยังคงเป็นป่าพง ป่าระกำป่าไผ่ และต้นไม้ชนิดต่าง ๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นเหมาะสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ ชุกชุม เช่นช้างป่าเป็นโขลง ๆ หมูป่า ไก่ป่าสุนัขจิ้งจอก และหมาใน
หลวงพ่อมาก เมธาวี เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 3 ของวัดบางแก้ว ที่วัดของท่านเลี้ยงสุนัขไว้ไม่ต่ำกว่า 20-30 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสุนัขที่ดุขึ้นชื่อลือชา และชาวบ้านทราบกันดีว่า ใครที่เข้ามาในวัดแต่ละครั้งจะต้องตะโกนให้เสียงแต่ไกล ๆ เพื่อให้พระอาจารย์มาก เมธาวี ท่านช่วยดูหมาเอาไว้ก่อน มิฉะนั้นจะถูกมันไล่กัด ด้วยกิตติศัพท์ในความดุของสุนัขที่วัดบางแก้วนี้เอง จึงมีผู้คนนิยมมาขอลูกสุนัขไปเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน เฝ้าเรือน เฝ้าเรือ เฝ้าแพ เฝ้าวัว เฝ้าควาย พื้นที่ที่สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วได้ขยายพันธุ์ไปมากที่สุดก็คือ ตำบลท่านางงามและตำบลชุมแสงสงคราม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก แต่ในปัจจุบันได้ขยายวงกว้างออกไปหลายจังหวัด[ต้องการอ้างอิง]
เหตุผลที่สันนิษฐานว่า สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วเป็นสุนัขลูกผสมสามสายเลือด เพราะพื้นที่ในเขตตำบลท่านางงาม ตำบลชุมแสงสงคราม อำเภอบางระกำ ในอดีตนั้นเป็นป่าดงพงพีที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด รวมทั้งสุนัขจิ้งจอกและหมาในอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โอกาสที่สุนัขจิ้งจอกและหมาในตัวผู้จะมาแอบลักลอบเข้ามาผสมพันธุ์กับสุนัขไทยตัวเมียที่เลี้ยงไว้ในวัดบางแก้วนั้นมีความเป็นไปได้สูงมากทีเดียว เพราะสุนัขป่าทั้งหลายนี้เป็นสุนัขที่กล้าหาญชาญชัย ว่องไว ใจปราดเปรียว แข็งแรง ซึ่งเรื่องนี้ อาจารย์ท่านหนึ่งของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์[ต้องการอ้างอิง] ได้ตรวจโครโมโซมของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วแล้วพบว่ามีโครโมโซมของสุนัขจิ้งจอกปะปนในโครโมโซมของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว ซึ่งเป็นการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ว่าสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วสืบเชื้อสายจากสุนัขลูกผสมระหว่างสุนัขบ้านกับสุนัขจิ้งจอก สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วจึงมีลักษณะดีเด่นปรากฏโฉมออกมาคือ มีขนยาว ขนมีลักษณะเป็นขนสองชั้นคล้าย หางเป็นพวงสวยงาม มีขนแผงคอคล้ายแผงคอสิงโต ดุ เฉลียวฉลาด มีไอคิวสูง ไม่แพ้สุนัขพันธุ์ต่างประเทศ มีความสวยงาม

ถุงยางอนามัย

                        ถุงยางอนามัย

          ถุงยางอนามัย เป็นอุปกรณ์คุมกำเนิด ที่นิยมใช้กันมากที่สุดในขณะร่วมเพศ ทำด้วยวัสดุจากยางพารา หรือโพลียูรีเทน โดยมีทั้งแบบสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ส่วนใหญ่ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายใช้โดยใช้ สวมครอบอวัยวะเพศชายที่กำลังแข็งตัวในขณะร่วมเพศ โดยเมื่อฝ่ายชายหลั่งน้ำอสุจิแล้ว น้ำอสุจิจะถูกเก็บไว้ในถุงยางอนามัย ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ และยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่น ซิฟิลิส หนองใน และเอดส์ได้ด้วย
         ถุงยางอนามัยถูกนำมาใช้งานในรูปแบบอื่นๆมากมายเพราะคุณสมบัติที่ทนทาน กันน้ำ และยืดหยุ่นได้ดี โดยนำมาใช้ผลิตไมโครโฟนกันน้ำ เรื่อยไปจนใช้กันปืนไรเฟิลติดขัด
          ถุงยางอนามัยสมัยใหม่ส่วนมากผลิตจากยางพารา แต่ก็มีบ้างที่ผลิตจากวัสดุอื่น เช่น โพลียูรีเทน หรือลำไส้ของลูกแกะ ถุงยางอนามัยสำหรับสตรีมักจะผลิตจากโพลียูรีเทน ถุงยางอนามัยสำหรับชายเป็นอุปกรณ์คุมกำเนิดที่ราคาไม่แพง ใช้งานง่าย ผลข้างเคียงน้อย และใช้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ถ้าใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องและใช้ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์จะทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 2% ต่อปี
           มีหลักฐานการใช้ถุงยางอนามัยครั้งแรกสุดในประวัติศาาสตร์ อย่างน้อยเมื่อ 400 ปีที่แล้ว การใช้ถุงยางอนามัยเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยมสูงสุดตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีอีกแง่มุมหนึ่งที่เป็นปัญหา เช่น การทิ้งถุงยางอนามัยอย่างไม่เหมาะสมทำให้เกิดปัญหาจากขยะและศาสนจักรโรมันคาทอลิกก็ต่อต้านการใช้ถุงยางอนามัยด้วย
            ในประเทศไทย นายมีชัย วีระไวทยะ เป็นผู้นำการรณรงค์ให้ใช้ถุงยางอนามัยเพื่อการคุมกำเนิด จนชาวบ้านเรียกว่า ถุงมีชัย ในปี พ.ศ. 2550 กระทรวงสาธารณสุข ใช้โครงการ “ยืดอก พกถุง” สร้างค่านิยมคนไทยและวัยรุ่น กล้าซื้อถุงยางอนามัยใช้ป้องกันโรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เนื่องจากวัยรุ่นใช้ถุงยางอนามัยป้องกันน้อย โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะอายผู้ขาย ไม่กล้าซื้อ ไม่กล้าพกพา และกลัวถูกมองว่าเซ็กส์จัด
  
   ที่มา : http://th.m.wikipedia.org/wiki/ถุงยางอนามัย

เกาะัเสม็ด




เกาะเสม็ด


เกาะเสม็ด เป็นเกาะในตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของระยอง ที่ได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทยและต่างประเทศ อยู่ห่างจากชายฝั่งบ้านเพประมาณ 6.5 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 3,125 ไร่ มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม เชื่อกันว่าคือเกาะแก้วพิสดาร ในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ของสุนทรภู่ อาจเป็นเพราะที่เกาะเสม็ดนี้มีหาดทรายขาวละเอียดอยู่ทั่วไป เหตุที่ชื่อว่าเกาะเสม็ดก็เพราะมีต้นเสม็ดขาวและเสม็ดแดงขึ้นอยู่มาก ชาวบ้านนำมาใช้เป็นไต้เพื่อจุดไฟ
บนเกาะเสม็ดไม่มีแม่น้ำลำคลอง เป็นภูเขาและป่าไม้เบญจพรรณ ประมาณ 80% ของพื้นที่ ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน ช่วงเดือนพฤษภาคมมีมรสุมและคลื่นลมจัดมาก เดือนสิงหาคมมีฝนตกชุกคนที่อาศัยส่วนใหญ่เป็นชาวเกาะที่อาศัยอยู่แต่ดั้งเดิม ใช้ชีวิตอยู่กับทะเลลักษณะแบ่งปันกันรู้จักกันแบบทุกบ้าน ส่วนช่วงที่ไม่มีมรสุมจะเป็นฤดูท่องเที่ยว เนื่องจากบนเกาะมีที่พักและรีสอร์ทหลายแห่ง